หวย กับ คนไทย

หวย เรื่องราวของการลุ้นโชค ถือเป็นการทายผลรางวัล ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยั่งยืนและยาวนาน นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน  ณ เวลานี้ การเล่นหวยก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจของการลุ้นโชคของคนไทยหลายๆ คน

เราจะพาคุณไปดูเรื่องราวของหวย หรือ “ลอตเตอรี่” กับความเป็นมา จนถึงการเล่นหวยในปัจจุบัน พร้อมทั้งเทคนิคการค้นหาตัวเลขเด็ดสำหรับการแทงหวย พอจะเป็นแนวทาง สำหรับคอหวย ของแต่ละงวด (ถ้าคุณยังไม่สามารถเลิกเล่นได้)

หวย หรือ ลอตเตอรี่  ในประเทศไทย

สำหรับการเล่น หวย  เป็นรูปแบบการทายผลเดิมพันของคนไทย ที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่อดีตการเล่นที่มาในรูปแบบของการทายผลสลากรางวัลเพื่อคว้าของรางวัลต่าง ๆ ถือเป็นการทายผลที่มีคนให้ความสนใจร่วมเดิมพันกันอยู่เสมอ โดยเชื่อกันว่าประเทศแรกๆ ที่ริเริ่มให้มีการเล่นหวยคงหนีไม่พ้นมหาอำนาจแห่งเอเชียอย่างประเทศ จีน เป็นแน่ ซื่งมีเรื่องราวที่เป็นหลักฐานพอระบุได้ว่าประเทศจีนเริ่มเล่นหวยกันมานับพันปีแล้ว ทั้งในระบบการทายผลตัวเลขและการเดิมพันทายผลแผ่นภาพต่างๆ

ต่อมามีการพัฒนารูปแบบในการเล่นหวยในระบบของ ไพ่ 13 ใบ ใช้ตะเกียบในการคีบแผ่นป้ายสำหรับการออกรางวัล หวยในรูปแบบนี้ เรารู้จักกันในชื่อของหวยจับยี่กี่ และหวยรูปแบบนี้เองที่กลายมาเป็นการแทงหวยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประเทศไทย และได้มีการแตกหน่อออกมาจนกลายเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล อย่างที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน 

เส้นการเดินทางของ “หวย” สู่การเดิมพันแทงตัวเลขในประเทศไทย

การแทง หวย ในประเทศไทยนั้น เชื่อว่า แรกเริ่มเดิมทีนั้น น่าจะมาจากเหล่ากรรมกรชาวจีนโพ้นทะเล ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงานในประเทศไทยและได้นำเอาการเล่นหวยติดตัวมาด้วย โดยหวยในรุ่นแรกของประเทศไทยคือหวยจับยี่กี่ที่เรารู้จักนั่นเอง ซึ่ง ณ เวลานั้นการแทงหวยยังจำกัดวงแคบๆอยู่ในกลุ่มของกรรมกรชาวจีนที่เข้ามาขายแรงงานในประเทศไทย จึงรู้จักกันในวงแคบๆเฉพาะชุมชนที่อยู่อาศัยใกล้ชิดกับ “นายบ่อนหวย” เท่านั้น

จนกระทั่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงได้เล็งเห็นถึงโอกาสสำหรับการสร้างรายได้เข้าท้องพระคลังหลวง รวมถึงต้องการกระตุ้นให้ชาวบ้านออกมาจับจ่ายใช้สอยกันบ้าง จึงได้มอบหมายให้ จีนหง หรือชื่อตามบรรดาศักดิ์คือ พระศรีไชยบาล ทำการดำเนินกิจการการเล่นหวยขึ้น โดยการเล่นหวยแต่ละรอบนั้น เจ้าของบ่อนจะต้องจ่ายเงินภาษีอากรมอบคืนให้แก่รัฐ แต่เมื่อเทียบกับอัตราการจ่ายภาษีกับตัวเงินที่จะได้รับแล้ว นายด่านเหล่านั้นยินดีที่จะจ่ายภาษีมากกว่า เพราะมูลค่าของการเป็นนายบ่อนหวยนั้นมันมหาศาลมาก

มาสู่ยุครุ่งเรือง การเล่นหวยในประเทศไทย

การเล่นหวย รูปแบบที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันนี้ ได้รับการยกระดับพัฒนาขึ้นมาในสมัยของรัชกาลที่ 5 เมื่อประเทศไทยมีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตก ได้มีการส่งคนออกไปเรียนรู้ ดูงาน และศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ในต่างแดนทำให้ภาพของการทายผลตัวเลขเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับหวย และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือมีการยุบการเรียกเก็บภาษีหวย หรือที่เรียกกันว่า “อากรบ่อนเบี้ย” และมีการปรับรูปแบบการเล่นหวยให้อยู่ภายใต้การดูแลของกองพระคลัง ไล่เรียงมาจนถึงการเป็นรัฐบาลไทยในปัจจุบัน

หวยในรูปแบบที่เรารู้จักคุ้นเคยกันอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 นี้เอง เมื่อนาย เฮนรี่ อาล บาสเตอร์ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ครูอาลบาสเตอร์ได้ขออนุญาตจากพระองค์ท่านในการออกรางวัลลอตเตอรี่เพื่อนำเงินรายได้ที่ได้จากการขายหวยนั้นมาจุนเจือแก่นักธุรกิจชาวอังกฤษที่ตกยากให้สามารถมีเงินทุนต่อไปสำหรับการประกอบอาชีพหรือการเดินทางกลับบ้าน จึงเป็นที่มาของการเล่นหวยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

ได้มีการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หวยในรูปแบบปัจจุบันนี้ มีมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีการออกรางวัลหวยภายใต้การดูแลของรัฐบาล โดยในการพิมพ์สลากครั้งนั้นมีมากถึง 1 ล้านฉบับ มีชื่อว่า ลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท เชื่อว่าได้มีการมอบเงินรางวัลให้สูงสุดในการแทงหวยครั้งนั้นถึง 1 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ไม่มีการบันทึกว่าใครเป็นผู้ได้รับรางวัลก้อนใหญ่นั้นไป และความนิยมในการเล่นหวยก็มาเงียบลงหลังจากนั้น

จนกระทั่งหวย ได้ถูกนำมาชุบชีวิตใหม่อีกครั้งในสมัยของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง การเล่นหวยอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล ซึ่งต้นกำเนิดของการเล่นหวยในรอบนี้ยังคงเป็นการหารายได้มาจุนเจือการทำงานบริหารประเทศ โดยมีการเล่นหวยกันสองรูปแบบคือ “ลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม” ให้กรมสรรพากรเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งมีการพิมพ์ออกจำหน่ายทั้งหมด 1 ล้านฉบับ ฉบับละ 1 บาท โดยใน 1 ปีจะออกรางวัล 4 งวด

หวย “สลากกินบำรุงเทศบาล” โดยวัตถุประสงค์คือเพื่อนำเงินไปบำรุงกิจการทางเทศบาล โดยเริ่มให้มีการขายหวยแบบนี้ในปี พ.ศ. 2478 ทั้งหมด 500,000 ใบ ฉบับละ 1 บาท ได้มีการออกสลากมาเรื่อย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2482 มีการยุบรวมหวยของทั้งสองหน่วยงานและกลายมาเป็น “สลากกินแบ่งรัฐบาล” โดยมีการออกรางวัล 2 งวดต่อเดือน ในวันที่ 1 และ 16 นับจากนั้นเป็นต้นมา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top